|
thaiamulet-thaipra.com=>
พระเครื่องล้ำค่า
| |||||||
พระเครื่องล้ำค่า
พระโคนสมอเนื้อดิน พิมพ์ปางรำพึง
พระโคนสมอเนื้อดิน พิมพ์ปางรำพึง รายละเอียดพระโคนสมอเนื้อดิน พิมพ์ปางรำพึงในวงการพระเราต่างกล่าวขวัญยกย่องกันเป็นเสียงเดียวว่า “พระสมเด็จวัดระฆังฯ” ทรงสี่เหลี่ยมชิ้นฟัก ที่สร้างและพุทธาภิเษกโดยสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหฺมรํสี) คือ “จักรพรรดิแห่งพระเครื่องฯ” แต่ถ้าจะพูดถึง “พระเครื่องฯ แห่งองค์จักรพรรดิ” แล้วไซร้ บรรดานักนิยมสะสมหรือเซียนพระรุ่นเก่า เขาชี้นิ้วไปที่ “พระโคนสมอ” กันครับ ทั้งนี้ ด้วยประวัติศาสตร์คำบอกเล่า (Oral History) ระบุว่า พระเครื่องฯ ชุดนี้ ถูกสร้างขึ้นโดยองค์บูรพกษัตริยาธิราชเจ้า ครั้งกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี และมิใช่ทรงสร้างเพื่อ “สืบอายุพระพุทธศาสนา” แต่เพียงอย่างเดียว เฉกเช่นพระเครื่องฯ ชุดอื่นๆ เท่านั้น ทว่า ยังทรงมีพระราชประสงค์เพื่อ “ป้องกันพระนคร” อีกประการหนึ่งด้วย โดยพระเครื่องฯ ชุดนี้ จะถูกนำไปเป็น “หนึ่งในเครื่องพิชัยยุทธ์” เมื่อพระองค์เสด็จฯ เป็นจอมทัพออกกระทำยุทธนาการปกบ้านป้องเมือง เรียกว่า พระโคนสมอนี้อยู่เคียงข้างองค์พระมหากษัตริย์มาตั้งแต่ครั้งบรรพกาลก็มิผิดแต่ประการใด นอกจากนี้ ยังทรงพระราชทานแจกจ่ายให้แก่บรรดาแม่ทัพนายกอง ตลอดจนทหารหาญ เช่น พวกกองอาทมาตทะลวงฟัน ก่อนออกไปปฏิบัติภารกิจเป็นทัพหน้าปะทะข้าศึก ตามความเชื่อในกระบวนพิชัยสงครามที่ว่าด้วยวิชา “แต่งคนออกศึก” หรือ “แต่งทัพจัดคน” จากประวัติศาสตร์คำบอกเล่า ยังระบุด้วยว่า พระโคนสมอถูกสร้างขึ้นที่เมืองพิษณุโลก โดยการสร้าง ตลอดจนพิธีกรรมพุทธาภิเษกกระทำกันต่อหน้าพระพักตร์องค์หลวงพ่อพระพุทธชินราช และก็นำพิมพ์ทรงของหลวงพ่อพระพุทธชินราช ซึ่งมีองค์พระประทับนั่งอยู่ในซุ้มเรือนแก้วนั้นเอง มาเป็นต้นแบบในการจัดสร้าง แต่ได้ประยุกต์พิมพ์ทรงเป็นปางประจำวันต่างๆ ตามความเชื่อใน “คัมภีร์มหาทักษา” ที่ว่าด้วยเรื่องเทวดานพเคราะห์และกำลังวัน อันเป็นหนึ่งในวิชาโหราศาสตร์ที่นิยมกันสมัยกรุงศรีอยุธยา ทางด้านเนื้อหานั้น มีหลายประเภทด้วยกัน ทั้ง ดิน ชิน และว่าน ด้านพระพุทธคุณนั้น มีประสบการณ์อย่างมากมายครบเครื่อง โดยเฉพาะเรื่องคงกระพันชาตรี แคล้วคลาด อันรวมไปถึงมหาอุด ตลอดจนป้องกันเขี้ยวงา นักเลงพระรุ่นเก่าต่างยกนิ้วให้ว่า อยู่ในระดับแถวหน้า และถ้าจะว่าไปแล้ว พระโคนสมอนี้เองที่ทำให้กรมหลวงชุมพรฯ ทรงเชื่อและเลื่อมใสในพระพุทธคุณ เพราะนำไปลองยิงด้วยพระแสงปืนแต่ไม่ออก แต่ที่สร้างชื่อมากที่สุด ก็เห็นจะเป็นเหตุการณ์ ทหารไทยได้รับเหรียญกล้าหาญบรอนซ์สตาร์เป็นเหรียญแรกในสมรภูมิสงครามเกาหลี หลังจากยิงสู้จนกระสุนหมด และได้ตัดสินใจวิ่งฝ่ากระสุนปืนกลหนัก เพื่อนำระเบิดขว้างใส่ข้าศึก โดยตนเองไม่ได้รับอันตราย ซึ่งทหารไทยนายนั้นรอดมาได้ เพราะมีพระโคนสมอชินเงินพิมพ์ห้อยพระบาทห้อยคอ เพียงองค์เดียวเท่านั้นเองครับ Credit จากคอลัมภ์เก่าอมตะ หนังสือพิมพ์สยามรัฐ 13/6/50 ดูรายละเอียดทั้งหมด -> เมื่อวันที่ : 2019-06-04 08:53:05
พระสมเด็จอรหัง พิมพ์ฐานคู่หลังโต๊ะกัง เนื้อขาว
พระสมเด็จอรหัง พิมพ์ฐานคู่หลังโต๊ะกัง เนื้อขาว รายละเอียดพระสมเด็จอรหังพิมพ์ฐานคู่หลังโต๊ะกัง วัดมหาธาตุ วรรณสีเนื้อในเป็นสีขาว ตามประวัติศวสตร์เชื่อว่าสร้างโดยสมเด็จพระสังฆราช(สุก ไก่เถื่อน) ในสมัยปี พศ.2363 ซึ่งเชื่อว่ามีการสร้างก่อนพระสมเด็จวัดระฆัง47ปี ด้านหลังจะมีจารึกอักษรของอรหังเป็นร่องลึก เรียกว่าหลังโต๊ะกัง เพราะคล้ายการตีตราของทองรูปพรรณในสมัยนั้น พุทธคุณเมตตามหานิยม แคล้วคาด เหมือนเช่นพระสมเด็จวัดระฆังทุกประการ มีเพิ่มเข้ามาคือ คงกระพันดูรายละเอียดทั้งหมด -> เมื่อวันที่ : 2017-12-14 08:37:05
พระปิดตาพิมพ์กบกรุวัดท้ายย่านเนื้อแร่พลวงพิมพ์กบ
พระปิดตาพิมพ์กบกรุวัดท้ายย่านเนื้อแร่พลวงพิมพ์กบ รายละเอียดพระปิดตาวัดท้ายย่าน อยู่ใน ชุดเบญจภาคีพระปิดตาเนื้อโลหะยอดนิยม ที่มีอายุความเก่ามากที่สุด เหนือกว่าพระปิดตาวัดหนัง พระปิดตาวัดทอง และ พระปิดตาวัดโมลีพุทธคุณโชคลาภ และดีในด้านคงกระพัน มหาอุดได้เป็นเลิศ จนได้รับการจัดอันดับเป็น พระเนื้อชินยอดนิยม และยังเป็น ๑ ใน ๕ สุดยอดของนักสะสมพระสายพระปิดตา ซึ่งคนรุ่นเก่าก่อนเรียกขานกันในวงการพระว่า พระปิดตา บ่หยั่น นักสู้รุ่นลายครามแบบลุยหนักถึงไหนถึงกัน จึงต่างเชื่อมั่นในพุทธคุณอันยอดเยี่ยม จนกล่าวกันว่า “แมลงวันไม่ได้กินเลือด” คนสมัยก่อนจึงนิยมใช้บูชาติดตัวป้องกันสรรพภัยร้ายมานานแล้ว PIRITUAL VALUES : INCREASING CHARMS AND LOVING-KINDNESS ,ENHANCING PROOF-AGAINST WEAPONS, ESCAPING FROM DANGERS AND ENHANCING SAFETY / PROTECTING FROM EVILS AND DEVILS. THE ESTIMATE PRICE/VALUE = 3750 US ดูรายละเอียดทั้งหมด -> เมื่อวันที่ : 2017-11-17 10:56:40
พระจิตรลดา เนื้อเมฆสิทธิ์
พระจิตรลดา เนื้อเมฆสิทธิ์ รายละเอียดพระจิตรลดา เนื้อเมฆสิทธิ์ สร้างในสมัย รัชกาลที่ 5 วาระ พ.ศ. 2412 - 2413สมเด็จโต พรหมรังสี อธิษฐานจิต หายากมาก ดูรายละเอียดทั้งหมด -> เมื่อวันที่ : 2017-05-27 16:46:36
พระกริ่งปวเรศ พิมพ์กริ่งใหญ่
พระกริ่งปวเรศ พิมพ์กริ่งใหญ่ รายละเอียดพระกริ่งปวเรศ พิมพ์กริ่งใหญ่ เป็นพระกริ่งที่สร้างโดยใช้พิมพ์กริ่งใหญ่จีน สร้างประมาณปี พ.ศ.2411 อธิษฐานและปลุกเสกโดยสมเด็จโต สมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ สร้างโดยช่างหล่อเพื่อเป็นอนุสรณ์ถวายพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่5 ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกขึ้นครองราชย์สมบัติของพระองค์ท่านขณะทรงพระเยาว์ พระกริ่งองค์นี้หายาก ใต้ฐานจะมีเลข 696 โค๊ตจำนวนการสร้าง เนื้อแก่ทอง และใต้ฐานจะเจาะก้นเพื่อใส่เม็ดกริ่ง และอุดด้วยหมุดสีเดียว และองค์นี้จะไม่มีบัวด้านหลัง ผิวพระไม่มีรอยพรุน หรือรอยตะไบเพราะหล่อได้สมบูรณ์มากพุทธคุณไร้ขีดจำกัด ดูรายละเอียดทั้งหมด -> เมื่อวันที่ : 2017-04-19 08:58:25
พระพิฆเนศศิลปะลพบุรี เนื้อสัมฤทธิ์เงิน
พระพิฆเนศศิลปะลพบุรี เนื้อสัมฤทธิ์เงิน รายละเอียดพระพิฆเนศศิลปะลพบุรี เนื้อสัมฤทธิ์เงิน ขนาดห้อยบูชาพุทธคุณเพื่อผลทางปัญญา การปกป้องคุ้มครอง ความโชคดี ความ ดูรายละเอียดทั้งหมด -> เมื่อวันที่ : 2016-11-02 08:48:27
ตลับสีผึ้งหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ มีจาร
ตลับสีผึ้งหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ มีจาร รายละเอียดตลับสีผึ้งหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ มีจารบนฝาและด้านล่างตลับดูรายละเอียดทั้งหมด -> เมื่อวันที่ : 2016-11-02 08:42:14
พระเจ้าห้าพระองค์ หลังอักษรจีน
พระเจ้าห้าพระองค์ หลังอักษรจีน รายละเอียดพระเจ้าห้าพระองค์ หลังอักษรจีนพระเจ้าห้าพระองค์องค์นี้ปิดทองเก่า สีของทองเก่าออกเป็นสีเหลืองซีดอมส้ม เนื้อพระเหมือนกันกับพระสมเด็จวัดระฆัง(เข้าใจว่าสร้างโดยสมเด็จโต) ด้านหลังเป็นร่องต่ำซึ่งจะมีอักษรจีนอยู่ข้างใน ขนาดขององค์พระจะใหญ่กว่าพระเจ้าห้าพระองค์ที่สร้างโดยหลวงพ่อเงินนิดหน่อย แปลกและหาดูยากมากๆ ดูรายละเอียดทั้งหมด -> เมื่อวันที่ : 2016-06-23 10:56:38
พระสมเด็จอรหังพิมพ์ฐานคู่ หลังจาร"อรหัง"เนื้อขาว
พระสมเด็จอรหังพิมพ์ฐานคู่ หลังจาร"อรหัง"เนื้อขาว รายละเอียดพระสมเด็จอรหังพิมพ์ฐานคู่ หลังจาร"อรหัง"เนื้อขาวพระสมเด็จอรหัง เป็นพระพิมพ์ที่มีความเหมือนกับพระสมเด็จของท่านเจ้าประคุณฯ ค่อนข้างมาก ไม่ว่าจะเป็นเนื้อมวลสารหรือพิมพ์ทรง อายุอานามก็คงจะไม่ด้อยไปกว่ากันมากนัก เนื่องด้วยพระพิมพ์นี้สร้างโดยพระอาจารย์ผู้ประสิทธิ์ประสาทวิชาของท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ คือ ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระสังฆราชเจ้าสุก ไก่เถื่อน ซึ่งมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักและเคารพเลื่อมใสของพุทธศาสนิกชนทั่วประเทศ และยังมีกิตติศัพท์เป็นที่เลื่องลือในด้านพุทธาคมเป็นเลิศในสมัยนั้นอีกด้วย ในอดีตเป็นที่นิยมสูงรองๆ จากพระสมเด็จทีเดียว พิมพ์นี้เป็นพระสมเด็จอรหัง พิมพ์ฐานคู่ ด้านหลังมีรอยเหล็กจารลึกลงไปในเนื้อว่า “อรหัง” ดูรายละเอียดทั้งหมด -> เมื่อวันที่ : 2016-06-08 10:22:46
พระสมเด็จอรหังพิมพ์ฐานคู่ หลังจาร"อรหัง"
พระสมเด็จอรหังพิมพ์ฐานคู่ หลังจาร"อรหัง" รายละเอียดพระสมเด็จอรหัง เป็นพระพิมพ์ที่มีความเหมือนกับพระสมเด็จของท่านเจ้าประคุณฯ ค่อนข้างมาก ไม่ว่าจะเป็นเนื้อมวลสารหรือพิมพ์ทรง อายุอานามก็คงจะไม่ด้อยไปกว่ากันมากนัก เนื่องด้วยพระพิมพ์นี้สร้างโดยพระอาจารย์ผู้ประสิทธิ์ประสาทวิชาของท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ คือ ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระสังฆราชเจ้าสุก ไก่เถื่อน ซึ่งมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักและเคารพเลื่อมใสของพุทธศาสนิกชนทั่วประเทศ และยังมีกิตติศัพท์เป็นที่เลื่องลือในด้านพุทธาคมเป็นเลิศในสมัยนั้นอีกด้วย ในอดีตเป็นที่นิยมสูงรองๆ จากพระสมเด็จทีเดียวพิมพ์นี้เป็นพระสมเด็จอรหัง พิมพ์ฐานคู่ ด้านหลังมีรอยเหล็กจารลึกลงไปในเนื้อว่า “อรหัง” ดูรายละเอียดทั้งหมด -> เมื่อวันที่ : 2016-05-17 10:00:35
เหรียญพระพุทธโสธรฉลุ 2460
เหรียญพระพุทธโสธรฉลุ 2460 รายละเอียดเหรียญพระพุทธโสธรฉลุ 2460ดูรายละเอียดทั้งหมด -> เมื่อวันที่ : 2016-05-17 09:21:32
สมเด็จอรหังพิมพ์ฐานคู่หลังโต๊ะกัง
สมเด็จอรหังพิมพ์ฐานคู่หลังโต๊ะกัง รายละเอียดพระสมเด็จอรหังพิมพ์ฐานคู่หลังโต๊ะกัง วัดมหาธาตุ วรรณสีเนื้อในเป็นสีขาว ตามประวัติศวสตร์เชื่อว่าสร้างโดยสมเด็จพระสังฆราช(สุก ไก่เถื่อน) ในสมัยปี พศ.2363 ซึ่งเชื่อว่ามีการสร้างก่อนพระสมเด็จวัดระฆัง47ปี ด้านหลังจะมีจารึกอักษรของอรหังเป็นร่องลึก เรียกว่าหลังโต๊ะกัง เพราะคล้ายการตีตราของทองรูปพรรณในสมัยนั้น พุทธคุณเมตตามหานิยม แคล้วคาด เหมือนเช่นพระสมเด็จวัดระฆังทุกประการ มีเพิ่มเข้ามาคือ คงกระพันดูรายละเอียดทั้งหมด -> เมื่อวันที่ : 2016-05-17 09:21:07
พญาครุฑหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้วเนื้อผงคลุกรักหลังพิมพ์เหรียญเจ้าสัว
พญาครุฑหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้วเนื้อผงคลุกรักหลังพิมพ์เหรียญเจ้าสัว รายละเอียดพญาครุฑหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้วเนื้อผงคลุกรักหลังพิมพ์เหรียญเจ้าสัวสุดยอดวัตถุมงคลที่ได้ขึ้นชื่อว่าครุฑ ซึ่งถือว่าเป็นของชั้นสูงและมีความวิเศษในตัว วัตถุมงคลชิ้นนี้ผู้สร้างน่าจะเป็นสุดยอดเกจิอาจารย์หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว เพราะดูได้จากด้านหลังที่เป็นรูปเหรียญเจ้าสัวที่ปิดทองเก่าไว้(โปรดใช้วิจารณญาณและตรรกะทางความคิด) และเป็นเนื้อผงคลุกรัก และมีขนาดใหญ่พอควร(เปรียบเทียบกับเหรียญบาทตามรูป) และเชื่อว่าท่านน่าจะสร้างให้กับเจ้านายชั้นสูงไว้เป็นศิริมงคล และจำนวนการสร้างไม่น่าจะมากนัก และที่สำคัญนั้นไม่มีให้เห็นกันเลยสำหรับกลุ่มนักสะสมพระเครื่องปัจจุบัน คนที่มีก็เก็บไว้บูชาโดยไม่ได้เอาออกมาให้เห็น และเชื่อว่าหลายๆคนคงไม่เคยเห็นรวมถึงเซียนพระหลายๆคนครับ ดูรายละเอียดทั้งหมด -> เมื่อวันที่ : 2016-05-12 14:42:38
พระโคนสมอเนื้อดิน พิมพ์ห้อยพระบาท
พระโคนสมอเนื้อดิน พิมพ์ห้อยพระบาท รายละเอียดพระโคนสมอเนื้อดิน พิมพ์ห้อยพระบาทในวงการพระเราต่างกล่าวขวัญยกย่องกันเป็นเสียงเดียวว่า “พระสมเด็จวัดระฆังฯ” ทรงสี่เหลี่ยมชิ้นฟัก ที่สร้างและพุทธาภิเษกโดยสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหฺมรํสี) คือ “จักรพรรดิแห่งพระเครื่องฯ” แต่ถ้าจะพูดถึง “พระเครื่องฯ แห่งองค์จักรพรรดิ” แล้วไซร้ บรรดานักนิยมสะสมหรือเซียนพระรุ่นเก่า เขาชี้นิ้วไปที่ “พระโคนสมอ” กันครับ ทั้งนี้ ด้วยประวัติศาสตร์คำบอกเล่า (Oral History) ระบุว่า พระเครื่องฯ ชุดนี้ ถูกสร้างขึ้นโดยองค์บูรพกษัตริยาธิราชเจ้า ครั้งกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี และมิใช่ทรงสร้างเพื่อ “สืบอายุพระพุทธศาสนา” แต่เพียงอย่างเดียว เฉกเช่นพระเครื่องฯ ชุดอื่นๆ เท่านั้น ทว่า ยังทรงมีพระราชประสงค์เพื่อ “ป้องกันพระนคร” อีกประการหนึ่งด้วย โดยพระเครื่องฯ ชุดนี้ จะถูกนำไปเป็น “หนึ่งในเครื่องพิชัยยุทธ์” เมื่อพระองค์เสด็จฯ เป็นจอมทัพออกกระทำยุทธนาการปกบ้านป้องเมือง เรียกว่า พระโคนสมอนี้อยู่เคียงข้างองค์พระมหากษัตริย์มาตั้งแต่ครั้งบรรพกาลก็มิผิดแต่ประการใด นอกจากนี้ ยังทรงพระราชทานแจกจ่ายให้แก่บรรดาแม่ทัพนายกอง ตลอดจนทหารหาญ เช่น พวกกองอาทมาตทะลวงฟัน ก่อนออกไปปฏิบัติภารกิจเป็นทัพหน้าปะทะข้าศึก ตามความเชื่อในกระบวนพิชัยสงครามที่ว่าด้วยวิชา “แต่งคนออกศึก” หรือ “แต่งทัพจัดคน” จากประวัติศาสตร์คำบอกเล่า ยังระบุด้วยว่า พระโคนสมอถูกสร้างขึ้นที่เมืองพิษณุโลก โดยการสร้าง ตลอดจนพิธีกรรมพุทธาภิเษกกระทำกันต่อหน้าพระพักตร์องค์หลวงพ่อพระพุทธชินราช และก็นำพิมพ์ทรงของหลวงพ่อพระพุทธชินราช ซึ่งมีองค์พระประทับนั่งอยู่ในซุ้มเรือนแก้วนั้นเอง มาเป็นต้นแบบในการจัดสร้าง แต่ได้ประยุกต์พิมพ์ทรงเป็นปางประจำวันต่างๆ ตามความเชื่อใน “คัมภีร์มหาทักษา” ที่ว่าด้วยเรื่องเทวดานพเคราะห์และกำลังวัน อันเป็นหนึ่งในวิชาโหราศาสตร์ที่นิยมกันสมัยกรุงศรีอยุธยา ทางด้านเนื้อหานั้น มีหลายประเภทด้วยกัน ทั้ง ดิน ชิน และว่าน ด้านพระพุทธคุณนั้น มีประสบการณ์อย่างมากมายครบเครื่อง โดยเฉพาะเรื่องคงกระพันชาตรี แคล้วคลาด อันรวมไปถึงมหาอุด ตลอดจนป้องกันเขี้ยวงา นักเลงพระรุ่นเก่าต่างยกนิ้วให้ว่า อยู่ในระดับแถวหน้า และถ้าจะว่าไปแล้ว พระโคนสมอนี้เองที่ทำให้กรมหลวงชุมพรฯ ทรงเชื่อและเลื่อมใสในพระพุทธคุณ เพราะนำไปลองยิงด้วยพระแสงปืนแต่ไม่ออก แต่ที่สร้างชื่อมากที่สุด ก็เห็นจะเป็นเหตุการณ์ ทหารไทยได้รับเหรียญกล้าหาญบรอนซ์สตาร์เป็นเหรียญแรกในสมรภูมิสงครามเกาหลี หลังจากยิงสู้จนกระสุนหมด และได้ตัดสินใจวิ่งฝ่ากระสุนปืนกลหนัก เพื่อนำระเบิดขว้างใส่ข้าศึก โดยตนเองไม่ได้รับอันตราย ซึ่งทหารไทยนายนั้นรอดมาได้ เพราะมีพระโคนสมอชินเงินพิมพ์ห้อยพระบาทห้อยคอ เพียงองค์เดียวเท่านั้นเองครับ Credit จากคอลัมภ์เก่าอมตะ หนังสือพิมพ์สยามรัฐ 13/6/50 ดูรายละเอียดทั้งหมด -> เมื่อวันที่ : 2016-05-11 16:48:59
พระโคนสมอเนื้อดิน พิมพ์ปางถวายเนตร
พระโคนสมอเนื้อดิน พิมพ์ปางถวายเนตร รายละเอียดพระโคนสมอเนื้อดิน พิมพ์ปางถวายเนตรในวงการพระเราต่างกล่าวขวัญยกย่องกันเป็นเสียงเดียวว่า “พระสมเด็จวัดระฆังฯ” ทรงสี่เหลี่ยมชิ้นฟัก ที่สร้างและพุทธาภิเษกโดยสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหฺมรํสี) คือ “จักรพรรดิแห่งพระเครื่องฯ” แต่ถ้าจะพูดถึง “พระเครื่องฯ แห่งองค์จักรพรรดิ” แล้วไซร้ บรรดานักนิยมสะสมหรือเซียนพระรุ่นเก่า เขาชี้นิ้วไปที่ “พระโคนสมอ” กันครับ ทั้งนี้ ด้วยประวัติศาสตร์คำบอกเล่า (Oral History) ระบุว่า พระเครื่องฯ ชุดนี้ ถูกสร้างขึ้นโดยองค์บูรพกษัตริยาธิราชเจ้า ครั้งกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี และมิใช่ทรงสร้างเพื่อ “สืบอายุพระพุทธศาสนา” แต่เพียงอย่างเดียว เฉกเช่นพระเครื่องฯ ชุดอื่นๆ เท่านั้น ทว่า ยังทรงมีพระราชประสงค์เพื่อ “ป้องกันพระนคร” อีกประการหนึ่งด้วย โดยพระเครื่องฯ ชุดนี้ จะถูกนำไปเป็น “หนึ่งในเครื่องพิชัยยุทธ์” เมื่อพระองค์เสด็จฯ เป็นจอมทัพออกกระทำยุทธนาการปกบ้านป้องเมือง เรียกว่า พระโคนสมอนี้อยู่เคียงข้างองค์พระมหากษัตริย์มาตั้งแต่ครั้งบรรพกาลก็มิผิดแต่ประการใด นอกจากนี้ ยังทรงพระราชทานแจกจ่ายให้แก่บรรดาแม่ทัพนายกอง ตลอดจนทหารหาญ เช่น พวกกองอาทมาตทะลวงฟัน ก่อนออกไปปฏิบัติภารกิจเป็นทัพหน้าปะทะข้าศึก ตามความเชื่อในกระบวนพิชัยสงครามที่ว่าด้วยวิชา “แต่งคนออกศึก” หรือ “แต่งทัพจัดคน” จากประวัติศาสตร์คำบอกเล่า ยังระบุด้วยว่า พระโคนสมอถูกสร้างขึ้นที่เมืองพิษณุโลก โดยการสร้าง ตลอดจนพิธีกรรมพุทธาภิเษกกระทำกันต่อหน้าพระพักตร์องค์หลวงพ่อพระพุทธชินราช และก็นำพิมพ์ทรงของหลวงพ่อพระพุทธชินราช ซึ่งมีองค์พระประทับนั่งอยู่ในซุ้มเรือนแก้วนั้นเอง มาเป็นต้นแบบในการจัดสร้าง แต่ได้ประยุกต์พิมพ์ทรงเป็นปางประจำวันต่างๆ ตามความเชื่อใน “คัมภีร์มหาทักษา” ที่ว่าด้วยเรื่องเทวดานพเคราะห์และกำลังวัน อันเป็นหนึ่งในวิชาโหราศาสตร์ที่นิยมกันสมัยกรุงศรีอยุธยา ทางด้านเนื้อหานั้น มีหลายประเภทด้วยกัน ทั้ง ดิน ชิน และว่าน ด้านพระพุทธคุณนั้น มีประสบการณ์อย่างมากมายครบเครื่อง โดยเฉพาะเรื่องคงกระพันชาตรี แคล้วคลาด อันรวมไปถึงมหาอุด ตลอดจนป้องกันเขี้ยวงา นักเลงพระรุ่นเก่าต่างยกนิ้วให้ว่า อยู่ในระดับแถวหน้า และถ้าจะว่าไปแล้ว พระโคนสมอนี้เองที่ทำให้กรมหลวงชุมพรฯ ทรงเชื่อและเลื่อมใสในพระพุทธคุณ เพราะนำไปลองยิงด้วยพระแสงปืนแต่ไม่ออก แต่ที่สร้างชื่อมากที่สุด ก็เห็นจะเป็นเหตุการณ์ ทหารไทยได้รับเหรียญกล้าหาญบรอนซ์สตาร์เป็นเหรียญแรกในสมรภูมิสงครามเกาหลี หลังจากยิงสู้จนกระสุนหมด และได้ตัดสินใจวิ่งฝ่ากระสุนปืนกลหนัก เพื่อนำระเบิดขว้างใส่ข้าศึก โดยตนเองไม่ได้รับอันตราย ซึ่งทหารไทยนายนั้นรอดมาได้ เพราะมีพระโคนสมอชินเงินพิมพ์ห้อยพระบาทห้อยคอ เพียงองค์เดียวเท่านั้นเองครับ Credit จากคอลัมภ์เก่าอมตะ หนังสือพิมพ์สยามรัฐ 13/6/50 ดูรายละเอียดทั้งหมด -> เมื่อวันที่ : 2016-05-11 16:45:01
พระโคนสมอเนื้อดิน พิมพ์ปางไสยาสน์
พระโคนสมอเนื้อดิน พิมพ์ปางไสยาสน์ รายละเอียดพระโคนสมอเนื้อดิน พิมพ์ปางไสยาสน์ในวงการพระเราต่างกล่าวขวัญยกย่องกันเป็นเสียงเดียวว่า “พระสมเด็จวัดระฆังฯ” ทรงสี่เหลี่ยมชิ้นฟัก ที่สร้างและพุทธาภิเษกโดยสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหฺมรํสี) คือ “จักรพรรดิแห่งพระเครื่องฯ” แต่ถ้าจะพูดถึง “พระเครื่องฯ แห่งองค์จักรพรรดิ” แล้วไซร้ บรรดานักนิยมสะสมหรือเซียนพระรุ่นเก่า เขาชี้นิ้วไปที่ “พระโคนสมอ” กันครับ ทั้งนี้ ด้วยประวัติศาสตร์คำบอกเล่า (Oral History) ระบุว่า พระเครื่องฯ ชุดนี้ ถูกสร้างขึ้นโดยองค์บูรพกษัตริยาธิราชเจ้า ครั้งกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี และมิใช่ทรงสร้างเพื่อ “สืบอายุพระพุทธศาสนา” แต่เพียงอย่างเดียว เฉกเช่นพระเครื่องฯ ชุดอื่นๆ เท่านั้น ทว่า ยังทรงมีพระราชประสงค์เพื่อ “ป้องกันพระนคร” อีกประการหนึ่งด้วย โดยพระเครื่องฯ ชุดนี้ จะถูกนำไปเป็น “หนึ่งในเครื่องพิชัยยุทธ์” เมื่อพระองค์เสด็จฯ เป็นจอมทัพออกกระทำยุทธนาการปกบ้านป้องเมือง เรียกว่า พระโคนสมอนี้อยู่เคียงข้างองค์พระมหากษัตริย์มาตั้งแต่ครั้งบรรพกาลก็มิผิดแต่ประการใด นอกจากนี้ ยังทรงพระราชทานแจกจ่ายให้แก่บรรดาแม่ทัพนายกอง ตลอดจนทหารหาญ เช่น พวกกองอาทมาตทะลวงฟัน ก่อนออกไปปฏิบัติภารกิจเป็นทัพหน้าปะทะข้าศึก ตามความเชื่อในกระบวนพิชัยสงครามที่ว่าด้วยวิชา “แต่งคนออกศึก” หรือ “แต่งทัพจัดคน” จากประวัติศาสตร์คำบอกเล่า ยังระบุด้วยว่า พระโคนสมอถูกสร้างขึ้นที่เมืองพิษณุโลก โดยการสร้าง ตลอดจนพิธีกรรมพุทธาภิเษกกระทำกันต่อหน้าพระพักตร์องค์หลวงพ่อพระพุทธชินราช และก็นำพิมพ์ทรงของหลวงพ่อพระพุทธชินราช ซึ่งมีองค์พระประทับนั่งอยู่ในซุ้มเรือนแก้วนั้นเอง มาเป็นต้นแบบในการจัดสร้าง แต่ได้ประยุกต์พิมพ์ทรงเป็นปางประจำวันต่างๆ ตามความเชื่อใน “คัมภีร์มหาทักษา” ที่ว่าด้วยเรื่องเทวดานพเคราะห์และกำลังวัน อันเป็นหนึ่งในวิชาโหราศาสตร์ที่นิยมกันสมัยกรุงศรีอยุธยา ทางด้านเนื้อหานั้น มีหลายประเภทด้วยกัน ทั้ง ดิน ชิน และว่าน ด้านพระพุทธคุณนั้น มีประสบการณ์อย่างมากมายครบเครื่อง โดยเฉพาะเรื่องคงกระพันชาตรี แคล้วคลาด อันรวมไปถึงมหาอุด ตลอดจนป้องกันเขี้ยวงา นักเลงพระรุ่นเก่าต่างยกนิ้วให้ว่า อยู่ในระดับแถวหน้า และถ้าจะว่าไปแล้ว พระโคนสมอนี้เองที่ทำให้กรมหลวงชุมพรฯ ทรงเชื่อและเลื่อมใสในพระพุทธคุณ เพราะนำไปลองยิงด้วยพระแสงปืนแต่ไม่ออก แต่ที่สร้างชื่อมากที่สุด ก็เห็นจะเป็นเหตุการณ์ ทหารไทยได้รับเหรียญกล้าหาญบรอนซ์สตาร์เป็นเหรียญแรกในสมรภูมิสงครามเกาหลี หลังจากยิงสู้จนกระสุนหมด และได้ตัดสินใจวิ่งฝ่ากระสุนปืนกลหนัก เพื่อนำระเบิดขว้างใส่ข้าศึก โดยตนเองไม่ได้รับอันตราย ซึ่งทหารไทยนายนั้นรอดมาได้ เพราะมีพระโคนสมอชินเงินพิมพ์ห้อยพระบาทห้อยคอ เพียงองค์เดียวเท่านั้นเองครับ Credit จากคอลัมภ์เก่าอมตะ หนังสือพิมพ์สยามรัฐ 13/6/50 ดูรายละเอียดทั้งหมด -> เมื่อวันที่ : 2016-05-11 16:44:25
พระพิจิตรเม็ดข้าวเม่า
พระพิจิตรเม็ดข้าวเม่า รายละเอียดพระพิจิตรเม็ดข้าวเม่า แท้ดูง่าย พระขึ้นไขเต็มองค์ ในสมัยเก่าก่อน มีเรื่องเล่าขานกันมาถึง ๒ พระมหากษัตริย์มหาราช ที่ทรงกู้เอกราชของชาติไทยว่า สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงนำพระเครื่องของเมืองพิจิตรติดพระองค์ตลอดเวลายามออกศึกสงคราม โดยทรงติดไว้ที่พระมาลา (หมวก) และจากภาพวาดในปัจจุบันของ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ที่ชาวไทยหลายบ้านเรือนมีไว้สักการบูชาทั่วไป ปรากฏว่า ที่พระมาลาของพระองค์ก็มี พระพิจิตรเม็ดข้าวเม่าให้เห็นเช่นกันพระพิจิตร เม็ดข้าวเม่า เนื้อชินเงิน ต้นตำรับ พระเล็กจิ๋วแต่แจ๋ว ด้วยพุทธคุณด้านมหาอุด คงกระพันชาตรี แคล้วคลาดปลอดภัย ดูรายละเอียดทั้งหมด -> เมื่อวันที่ : 2015-11-03 11:20:56 |
บทความแนะนำ |
||||||
